Category: Catholic News

Catholic News
cq5dam.thumbnail.cropped.1500.844
โบสถ์คาทอลิกถูกโจมตีที่ประเทศบูร์กินาฟาโซ

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2019 กลุ่มผู้ก่อการร้ายติดอาวุธได้บุกโจมตีโบสถ์คาทอลิกในเมืองโทล์ฟ ทางตอนเหนือของประเทศบูร์กินาฟาโซในแอฟริกาตะวันตกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้ก่อการร้ายได้โจมตีระหว่างพิธีบูชามิสซาทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย สัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มผู้ก่อการร้ายได้สังหารชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก 4 รายที่เมืองซิมเทงกา ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน กลุ่มก่อการร้ายได้โจมตีโบสถ์คริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ที่เมืองซิลกัดจิ มีผู้เสียชีวิต 6 คน และในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม บาทหลวง 1 คนและคริสตชน 5 คนได้ถูกสังหารในเมืองดาโบล เชื่อว่าผู้ลงมือเป็นกลุ่มทหารชาวมุสลิมที่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ที่สงบสุขระหว่างชาวมุสลิมและชาวคริสต์ในประเทศบูร์กินาฟาโซ มุขนายกธีโอไฟร์ แนร์ (Theophile Nare) ประมุขสังฆมณฑลคายา (The Roman Catholic Diocese of Kaya) กล่าวกับสำนักข่าวนครรัฐวาติกันว่าจากการก่อการร้ายที่เมืองซิลกัดจิ ผู้กระทำน่าจะต้องการกระตุ้นให้เกิดสงครามระหว่างศาสนา ชนชาติขึ้น เชื่อว่าทั้งหมดนี้มาจากกลุ่มหัวรุนแรงชาวมุสลิม สถาบันศึกษายุทธศาสตร์ของแอฟริกา (Africa Centre for Strategic Studies) ระบุว่าการโจมตีภายในแคว้นสิเฮล (แคว้นหนึ่งในประเทศบูร์กินาฟาโซ) ได้เพิ่มจำนวนขึ้น จาก 3 ครั้งในปี […]

Catholic News
cq5dam.thumbnail.cropped.1500.844
การไถ่บาปไม่ได้ถูกชำระหากแต่เป็นของขวัญ…

ในโอกาสพบคริสตชนทุกวันพุธ (General Audience) ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2019 พระสันตะปาปาฟรังซิส ได้เน้นย้ำถึงกิจการของอัครสาวกในพันธสัญญาใหม่ ท่านกล่าวว่าในบทนี้จะพูดถึงการประกาศข่าวดีซึ่งแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างผู้ประกาศข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าและพระจิตเจ้าผ่านทางพระวาจาและองค์พระจิต โดยของขวัญที่ประทานโดยพระจิตเจ้านั้นถูกมอบโดยพระเจ้าเองผ่านการไถ่บาป การไถ่บาปไม่ได้ถูกชำระหรือได้มาโดยมีสิ่งตอบแทน มันเป็นของขวัญที่ถูกมอบโดยพระเจ้า พระสันตะปาปาได้กล่าวถึงตอนที่พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนชีพ ท่านได้ให้คำสัญญาแก่อัครสาวกผ่านทางพระบิดาว่า “ท่านจะถูกล้างบาปโดยพระจิตเจ้า” ซึ่งหลังจากนั้นอัครสาวกรวมถึงพระแม่มารีย์ก็ได้ไปประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้าในห้องชั้นบน (กจ 2:1-13) พระสันตะปาปาได้เน้นย้ำว่าให้หมั่นสวดภาวนาด้วยความขยันหมั่นเพียร โดยวันที่ 30 พฤษภาคม เป็นวันที่พระศาสนจักรจะเฉลิมฉลองวันที่พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ พระสันตะปาปาได้จบท้ายด้วยคำพูดที่พระเยซูเจ้ากล่าวแก่อัครสาวกก่อนเสด็จขึ้นสวรรค์ว่า”เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว เราจะมาหาท่าน”(ยอห์น 14:18) หากเราเป็นพวกเดียวกับพระเยซูเจ้า ท่านจะทำให้เรารู้สึกว่าท่านมีตัวตนอยู่ในชีวิตเรา ซึ่งนั่นจะไม่ทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวหรือถูกละทิ้ง แปลและเรียบเรียงโดย นางสาว เพ็ญพิชา กิจพานิช อ้างอิงจาก : https://www.vaticannews.va/en/pope/news/2019-05/pope-at-audience-salvation-is-not-bought-it-is-a-gift.html

Catholic News
cq5dam.thumbnail.cropped.1000.563
…กล้าและริเริ่มเรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา”

เมื่อวันพุธที่ 22 พฤษภาคม 2019 ในโอกาสพบคริสตชนทุกวันพุธ (General Audience) ณ ลานวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม พระสันตะปาปาฟรังซิสได้สรุปบทคำสอนของท่านในคำภาวนาของพระเจ้าหรือที่เรียกว่า “พระบิดา” ที่ท่านได้เริ่มเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ท่านได้ยกตัวอย่างในพันธสัญญาใหม่ที่บทสวดของพระเยซูเจ้ามีการรำลึกถึง”พระบิดา” อาทิ พระวรสารนักบุญมาระโก ที่พระเยซูเจ้าทูลว่า “อับบา (พ่อ) ทุกสิ่งเป็นได้สำหรับพระองค์ ขอโปรดให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่าให้เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์” (มาระโก14:36) เราได้เห็นถึงความเชื่อของพระเยซูเจ้าที่มีต่อพระบิดาท่ามกลางความมืดมิด ความกลัว ความเจ็บปวดรวดร้าวในสวนเกทเสมนี หรือ “และเมื่อพวกท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าพวกท่านมีเรื่องกับใคร จงยกโทษให้คนนั้น เพื่อว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์ จะทรงยกโทษความผิดของพวกท่านด้วย” (มาระโก11:25) แม้พระสันตะปาปายังสังเกตว่าบางครั้งพระเยซูเจ้าได้ใช้คำที่ดูห่างไกลจากคำว่า”พระบิดา” เช่น ตอนที่พระเยซูเจ้ากำลังจะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ท่านร้องว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย” (มัทธิว27:46) คำว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์” แสดงถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อพระบิดา ความเชื่อ และคำภาวนา พระสันตะปาปาฟรังซิสยังกล่าวอีกว่าในพันธสัญญาใหม่ ตัวละครตัวแรกที่ปรากฎอยู่ในบทสวดของคริสตชนทุกคนคือพระจิตเจ้า เราไม่สามารถภาวนาโดยไม่มีพระจิตเจ้าได้เลย พระจิตเจ้าช่วยเชื่อมหัวใจของคริสตชนแต่ละคนให้เข้าหาพระเจ้า เพราะฉะนั้นคริสตชนทุกคนสามารถภาวนาได้ในทุกกรณีและท่านได้เน้นย้ำว่าเราควรรำลึกถึงพี่น้อง มนุษยชาติทุกคนที่อยู่ภายใต้พระบิดา […]

Catholic News
0001
นครรัฐวาติกันได้เรียกร้องให้ดูแลวินเซนต์ แลมเบิร์ต

พระคาร์ดินัลเควิน ฟาร์เรล สมณมนตรีใหม่แห่งสมณกระทรวงเพื่อครอบครัวและฆราวาส (The Dicastery for the Laity, Family and Life) และอัครสังฆราชวินเชนโซ ปาเยียร์ (Vincenzo Paglia) เป็นสมณมนตรีของสำนักวิชาการเพื่อชีวิต ได้ออกมาประกาศร่วมกันถึงกรณีของนายวินเซนต์ แลมเบิร์ต ว่าควรดูแลเพื่อที่จะฟื้นฟูเขาให้มีชีวิตต่อ นายแลมเบิร์ต อายุ 42 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เมื่อ ปี ค.ศ.2008 เขาเป็นอัมพาตทั้งตัวและได้รับผลกระทบทางสมองอย่างรุนแรง เขาได้รับการวินิจฉัยจากทางแพทย์แล้วว่าไม่สามารถคิด พูด หรือเคลื่อนไหวได้แม้เขาจะยังสามารถหายใจได้ตามปกติ พระศาสนจักรมีความเห็นว่า แม้เขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้แล้ว เขายังคงมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์อยู่ การที่จะหยุดรักษาเขาโดยการงดให้สารอาหารและน้ำถือว่าเป็นการละเลยชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งเป็นการตัดสินบนความไม่ยุติธรรม ผู้ป่วยสมควรได้รับสารอาหารและน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงทั้งร่างกายและจิตใจ ตราบใดที่ผู้ป่วยยังสามารถรับสารอาหารและน้ำได้อยู่ ก็ถือว่าการกระทำเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลต่อผลกระทบในทางที่ไม่ดีต่อผู้ป่วย พระศาสนจักรหวังว่าการร้องขอนี้จะช่วยชีวิตของนายแลมเบิร์ตไว้ได้ ข่าวนี้ได้แพร่เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2019 https://www.vaticannews.va/en/vatican-city/news/2019-05/vatican-declaration-protection-life-vincent-lambert.html

Catholic News
001
พระสันตปาปาฟรังซิสต้อนรับคุณพ่อทอม อุสฮุนนาลิล

คุณพ่อทอม อุสฮุนนาลิล สงฆ์ชาวอินเดียของคณะซาเลเซียน ที่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่ม ISIS ได้ถูกพามาที่กรุงโรม ด้วยความช่วยเหลือของสุลต่านโอมาน และเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2017 ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ที่วาติกัน คุณพ่อทอม ได้ก้มลงจุมพิตแทบเท้าของพระสันตะปาปา เพื่อขอบคุณที่พระองค์ทรงช่วยประสานงานมานานนับปี ในการเจรจากับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้ ISIS ปล่อยตัวท่าน หลังจากที่คุณพ่อทอมจุมพิตแทบเท้าพระสันตะปาปาแล้ว พระสันตะปาปาทรงพยุงคุณพ่อทอมขึ้นมา แล้วจุมพิตมือของคุณพ่อทอม และขอให้คุณพ่ออวยพรพระองค์ด้วย ทั้งนี้ วาติกันเปิดเผยว่า ตลอด 18 เดือนที่ถูกจับกุมตัว คุณพ่อทอมไม่ได้ถวายบูชาขอบพระคุณเลย แต่ทุกวันท่านสวดภาวนาแบบเงียบ ๆ ไม่เคยขาดเลย

Catholic News
002
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประกาศสมณกฤษฎีกา

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2017 สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประกาศสมณกฤษฎีกา MAGNUM PRINCIPIUM ซึ่งว่าด้วย “การให้อำนาจและหน้าที่” สภาพระสังฆราชคาทอลิกท้องถิ่นในการแปลหนังสือพิธีกรรมจากภาษาลาตินเป็นภาษาท้องถิ่นแล้ว โดยมีข้อสรุปคือลดขั้นตอนการอนุมัติลง แล้วให้อำนาจหน้าที่กับฝ่ายท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งจากเดิม ท้องถิ่น แปลจากหนังสือพิธีกรรมหลักที่เป็นภาษาลาติน แล้วส่งไปโรม โรมต้องตรวจและอนุมัติ ซึ่งในพระสมณกฤษฎีการฉบับใหม่ จะเป็นท้องถิ่นแปลจากหนังสือพิธีกรรมหลัก แล้วส่งไปโรมอนุมัติ … โรมอาจจะไม่ตรวจแบบละเอียด เพราะถือว่ามอบอำนาจและหน้าที่ให้ท้องถิ่นแปลความแล้ว โรมจะทำแค่อนุมัติเท่านั้น

Catholic News
Pope_2017_1
แค่เริ่มคุยกับปีศาจ เราก็แพ้มันแล้ว…

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เวลาเจอการประจญ อย่าคุยกับปีศาจ แต่จงภาวนาขอพระเจ้า เพราะถ้าเราเริ่มคุยกับปีศาจ เราก็แพ้แล้ว ตัวอย่างชัดเจนคือเอวา  ทรงชี้ การโกงเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ อาทิ พวกขายของแล้วโกงตราชั่ง  ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือปฐมกาล เป็นเหตุการณ์ที่งูล่อลวงอาดัมและเอวา พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า – ปีศาจปรากฏมาในรูปของงู มันมีเสน่ห์และน่าดึงดูดมาก อาศัยความเจ้าเล่ห์ของมัน ปีศาจจ้องจะหลอกลวงมนุษย์ เรื่องแบบนี้ปีศาจคือผู้เชี่ยวชาญ มันคือบิดาของการโกหก นี่คือสิ่งที่ปีศาจทำกับเอวา มันทำให้เอวารู้สึกดี จากนั้น มันเริ่มพูดคุยกับเอวา คุยทีละนิด คุยไปเรื่อยๆ ที่สุดแล้วซาตานหลอกเอวาไปตามที่มันต้องการ – แต่กับพระเยซูแล้ว มันแตกต่างกันสิ้นเชิง ทุกอย่างจบลงกับปีศาจแบบแย่มาก มันพยายามจะพูดคุยกับพระเยซู แต่พระองค์ไม่ยอมคุยกับมัน

Catholic News
Pope_2017_2
คริสตชนต้องปฏิเสธการโกง …

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน การที่คริสตชนจะเป็นแสงสว่างส่องโลกและเป็นเกลือดองแผ่นดิน เราต้องเป็นอิสระจากการโกง  การหลีกหนีจากการโกง ต้องทำต่อเนื่องทุกวัน เพราะการโกงไม่มีวันจบสิ้น  นอกจากนี้ เรายังต้องปฏิเสธเมล็ดพันธุ์สกปรกที่เกิดจากความเห็นแก่ตัว ความอิจฉา และการนินทาเพราะสิ่งนี้ทำลายสังคมของเรา  ตอนท้าย สัตบุรุษร่วมเปล่งเสียง “วีว่า ปาปา” เพื่อให้กำลังใจพระสันตะปาปา หลังมีผู้ไม่ประสงค์ดีติดโปสเตอร์โจมตีพระองค์หลายแห่งทั่วกรุงโรม ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงกล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือดองแผ่นดินและเป็นแสงสว่างส่องโลก” พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า – คริสตชนได้รับกระแสเรียกให้มอบรสชาติที่ดีให้กับชีวิตของตน และในเวลาเดียวกัน เรายังต้องหลีกหนีจากเมล็ดพันธุ์สกปรกอันเนื่องมาจากความเห็นแก่ตัว ความอิจฉา และการนินทา เมล็ดพันธุ์สกปรกเหล่านี้ทำลายโครงสร้างสังคมของเรา ทั้งที่สังคมนี้ควรจะเป็นสถานที่ซึ่งต้อนรับทุกคน ร่วมแบ่งปันความเป็นหนึ่งเดียวกัน และทำให้เกิดการคืนดีกัน – การจะเติมเต็มพันธกิจนี้

Catholic News
20170125_Pope_chiusura della settimana per l'unita'
พระสันตะปาปาฟรังซิสเป็นประธานในการภาวนาคริสตศาสนสัมพันธ์

ช่วงเย็นวันพุธที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการภาวนาคริสตศาสนสัมพันธ์ โอกาสปิดสัปดาห์ภาวนาเพื่อเอกภาพคริสตชน พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม ท่ามกลางผู้แทนของพระศาสนจักรต่างๆ ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง พระสันตะปาปาตรัสว่า – นักบุญเปาโลเคยเบียดเบียนคริสตชน แต่แล้ว ท่านก็เปลี่ยนจากการเป็นคนที่เชื่อในความสามารถของตนเองและปฏิบัติตนตามธรรมบัญญัติอย่างเคร่งครัด มาเป็นคนที่กลับใจและศรัทธาต่อความรักของพระเจ้าผู้ทรงมอบพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ให้กับเรา – เหมือนกับนักบุญเปาโล เราแต่ละคนได้รับการอภัยโทษและรับความรักจากพระเจ้า เราถูกเรียกให้มาประกาศพระวรสารแห่งการคืนดีผ่านทางวาจา การดำเนินชีวิต และการทำตนเป็นประจักษ์พยานถึงชีวิตที่คืนดีกัน การคืนดีที่แท้จริงระหว่างคริสตชนจะบรรลุผลต่อเมื่อเราตระหนักถึงพระพรที่แต่ละคนมีและเรียนรู้พระพรนั้นจากคนอื่น เราตระหนักและเรียนรู้ด้วยความสุภาพและเชื่อฟัง โดยไม่ต้องให้ใครมาเรียนรู้จากเราก่อน – โอกาสครบรอบ 500 ปีที่ มาร์ติน ลูเธอร์ ปฏิรูปศาสนาคริสต์ คริสตชนต้องตระหนักถึงสิ่งที่เกิดในอดีตและต้องอย่าให้ตนเองจมปลักอยู่กับเรื่องเหล่านั้น คริสตชนต้องให้พระเจ้าบันดาลให้สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น จงเปิดตัวเองให้กับความหวังแล้วเราจะไม่ผิดหวัง – คริสตชนทุกนิกายควรใช้ประโยชน์ในทุกโอกาสที่พระญาณสอดส่องของพระเจ้านำเรามาพบกัน ในการสวดภาวนาและประกาศความรักของพระเจ้าร่วมกัน รับใช้ร่วมกัน เฉพาะอย่างยิ่ง รับใช้ผู้ที่ยากไร้และถูกทอดทิ้ง – ในความเป็นจริงแล้ว ความรักคือเครื่องยนต์ขับเคลื่อนงานคริสตศาสนสัมพันธ์ รักแท้ไม่ลบล้างความชอบธรรมที่แตกต่างของพระศาสนจักรต่างๆ แต่จะนำเราคืนดีกันและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง

Catholic News
20170125_Pope_non disperare
อย่าหมดหวังในพระญาณสอดส่องของพระเจ้าเด็ดขาด…

ช่วงสายวันพุธที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน บทอ่านช่วงเริ่มพิธี เป็นเหตุการณ์ที่นางยูดิธพูดขอร้องประชาชนที่กำลังสิ้นหวังว่า อย่าหมดหวังในพระญาณสอดส่องของพระเจ้าเด็ดขาด พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า – แบบอย่างของสตรีคนนี้เปี่ยมด้วยปรีชาญาณและความกล้าหาญอย่างมาก เรื่องราวของนางยูดิธสอนเราให้วางใจในพระญาณสอดส่องของพระเจ้า สอนให้เราภาวนาและนบนอบต่อพระองค์ เราต้องตระหนักถึงพระประสงค์ของพระเจ้าและทำทุกสิ่งด้วยพลังของเรา เพื่อสนองตอบต่อความท้าทายที่เข้ามาหาเรา – บ่อยไหมที่ความเชื่อในพระเจ้าของเราสั่นคลอน บ่อยไหมที่เราแต่ละคนสิ้นหวังและถูกประจญล่อลวงให้สูญเสียความเชื่อ และมัวแต่คิดว่าเรื่องร้ายที่สุดต้องเกิดขึ้นแน่ๆ พ่อหวังว่า ความเชื่อของนางยูดิธจะเป็นแรงบันดาลใจให้เรามอบตนเองไว้กับพระบิดา เรามอบด้วยความวางใจและนบนอบต่อพระองค์ – พี่น้องที่รัก ขอให้ความหวังตามแบบฉบับคริสตชนเอาชนะความกลัว การวางใจในพระเจ้าหมายถึงการเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของพระองค์อย่างไม่มีเงื่อนไข พระเจ้าทรงทราบดีว่าเราเป็นอย่างไรและเราต้องวางใจในพระองค์ เพราะหนทางของพระเจ้าและสิ่งที่พระองค์จะทำนั้นมันแตกต่างกับเราสิ้นเชิง – ดังนั้น ขอให้เรามอบตัวเองไว้กับพระบิดาเหมือนอย่างที่พระเยซูทรงนบนอบเชื่อฟังพระบิดาในสวนเกธเซเมนี พระเยซูตรัสว่า ‘ขออย่าให้เป็นไปตามความต้องการของลูก แต่ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระบิดาเถิด’ หลังการเข้าเฝ้าจบลง พระสันตะปาปาทรงทักทายผู้มาเข้าเฝ้าอย่างเป็นกันเอง หนึ่งในนั้นได้แก่ “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” นักแสดงชื่อดังและอดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย โอกาสนี้ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ได้ทูลพระสันตะปาปาเกี่ยวกับ “องค์กร R20” ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้ง หน่วยงานนี้รณรงค์ลดก๊าซเรือนกระจกในหลายประเทศ รวมทั้งในแถบเมดิเตอร์เรเนียนด้วย