พระคาร์ดินัลเควิน ฟาร์เรล สมณมนตรีใหม่แห่งสมณกระทรวงเพื่อครอบครัวและฆราวาส (The Dicastery for the Laity, Family and Life) และอัครสังฆราชวินเชนโซ ปาเยียร์ (Vincenzo Paglia) เป็นสมณมนตรีของสำนักวิชาการเพื่อชีวิต ได้ออกมาประกาศร่วมกันถึงกรณีของนายวินเซนต์ แลมเบิร์ต ว่าควรดูแลเพื่อที่จะฟื้นฟูเขาให้มีชีวิตต่อ
นายแลมเบิร์ต อายุ 42 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เมื่อ ปี ค.ศ.2008 เขาเป็นอัมพาตทั้งตัวและได้รับผลกระทบทางสมองอย่างรุนแรง เขาได้รับการวินิจฉัยจากทางแพทย์แล้วว่าไม่สามารถคิด พูด หรือเคลื่อนไหวได้แม้เขาจะยังสามารถหายใจได้ตามปกติ
พระศาสนจักรมีความเห็นว่า แม้เขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้แล้ว เขายังคงมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์อยู่ การที่จะหยุดรักษาเขาโดยการงดให้สารอาหารและน้ำถือว่าเป็นการละเลยชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งเป็นการตัดสินบนความไม่ยุติธรรม ผู้ป่วยสมควรได้รับสารอาหารและน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงทั้งร่างกายและจิตใจ ตราบใดที่ผู้ป่วยยังสามารถรับสารอาหารและน้ำได้อยู่ ก็ถือว่าการกระทำเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลต่อผลกระทบในทางที่ไม่ดีต่อผู้ป่วย พระศาสนจักรหวังว่าการร้องขอนี้จะช่วยชีวิตของนายแลมเบิร์ตไว้ได้ ข่าวนี้ได้แพร่เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2019
https://www.vaticannews.va/en/vatican-city/news/2019-05/vatican-declaration-protection-life-vincent-lambert.html
พระสันตะปาปาฟรังซิสเป็นประธานในการภาวนาคริสตศาสนสัมพันธ์
ช่วงเย็นวันพุธที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการภาวนาคริสตศาสนสัมพันธ์ โอกาสปิดสัปดาห์ภาวนาเพื่อเอกภาพคริสตชน พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม ท่ามกลางผู้แทนของพระศาสนจักรต่างๆ ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง พระสันตะปาปาตรัสว่า – นักบุญเปาโลเคยเบียดเบียนคริสตชน แต่แล้ว ท่านก็เปลี่ยนจากการเป็นคนที่เชื่อในความสามารถของตนเองและปฏิบัติตนตามธรรมบัญญัติอย่างเคร่งครัด มาเป็นคนที่กลับใจและศรัทธาต่อความรักของพระเจ้าผู้ทรงมอบพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ให้กับเรา – เหมือนกับนักบุญเปาโล เราแต่ละคนได้รับการอภัยโทษและรับความรักจากพระเจ้า เราถูกเรียกให้มาประกาศพระวรสารแห่งการคืนดีผ่านทางวาจา การดำเนินชีวิต และการทำตนเป็นประจักษ์พยานถึงชีวิตที่คืนดีกัน การคืนดีที่แท้จริงระหว่างคริสตชนจะบรรลุผลต่อเมื่อเราตระหนักถึงพระพรที่แต่ละคนมีและเรียนรู้พระพรนั้นจากคนอื่น เราตระหนักและเรียนรู้ด้วยความสุภาพและเชื่อฟัง โดยไม่ต้องให้ใครมาเรียนรู้จากเราก่อน – โอกาสครบรอบ 500 ปีที่ มาร์ติน ลูเธอร์ ปฏิรูปศาสนาคริสต์ คริสตชนต้องตระหนักถึงสิ่งที่เกิดในอดีตและต้องอย่าให้ตนเองจมปลักอยู่กับเรื่องเหล่านั้น คริสตชนต้องให้พระเจ้าบันดาลให้สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น จงเปิดตัวเองให้กับความหวังแล้วเราจะไม่ผิดหวัง – คริสตชนทุกนิกายควรใช้ประโยชน์ในทุกโอกาสที่พระญาณสอดส่องของพระเจ้านำเรามาพบกัน ในการสวดภาวนาและประกาศความรักของพระเจ้าร่วมกัน รับใช้ร่วมกัน เฉพาะอย่างยิ่ง รับใช้ผู้ที่ยากไร้และถูกทอดทิ้ง – ในความเป็นจริงแล้ว ความรักคือเครื่องยนต์ขับเคลื่อนงานคริสตศาสนสัมพันธ์ รักแท้ไม่ลบล้างความชอบธรรมที่แตกต่างของพระศาสนจักรต่างๆ แต่จะนำเราคืนดีกันและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง
Leave a Reply