กรุงโรม (ประเทศอิตาลี) วันที่ 22 ตุลาคม 2021 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จเยี่ยมสมาชิกคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 24 ณ บ้านศูนย์กลางของคณะที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี โอกาสนี้ มาเดอร์ เคียรา คัสซูโอลา อัคราธิการิณีคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ และซิสเตอร์อีวอง แรงกว๊อท อดีตอัคราธิการิณี พร้อมด้วยสมาชิกในที่ประชุมสมัชชาทุกคนให้การต้อนรับการเสด็จเยือนของพระองค์ท่านด้วยความตื่นเต้นยินดี นับเป็นพระพรที่พระเจ้าประทานแก่คณะอย่างเหลือล้น สมเด็จพระสันตะปาปาทรงพบปะ ทักทายบรรดาซิสเตรอ์ในที่ประชุมทุกคนด้วยความมีชีวิตชีวาและเป็นกันเอง และทรงใช้โอกาสนี้ประทานข้อคิดเพื่อให้กำลังใจแก่บรรดาซิสเตอร์ในการเป็น “หมู่คณะที่ก่อให้เกิดชีวิต” และการเป็น “สตรีแห่งความหวัง” ท่ามกลางช่วงเวลาและสถานการณ์ปัจจุบันที่เต็มด้วย “ความเปราะบางและความไม่แน่นอน” ของการแพร่ระบาดของโรคร้ายที่ได้คร่าชีวิตของผู้คนมากมาย เป็นต้น คนยากจนที่น่าสงสาร และทรงกำชับให้บรรดาสมาชิกของคณะทุกคนได้อยู่เคียงข้างผู้ยากจนและบรรดาเยาวชน อีกทั้งยึดมั่นในการดำเนินชีวิตตามพระพรพิเศษของคณะดังเช่นเมื่อเริ่มแรกที่คณะได้ถือกำเนิดมาอย่างซื่อสัตย์
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้ง ซิสเตอร์ อเลสซานดรา สเมริลลี (FMA)
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้ง ซิสเตอร์ อเลสซานดรา สเมริลลี (Alessandra Smerilli) ทำหน้าที่เลขาธิการกระทรวงพัฒนามนุษย์และประสานงานคณะกรรมาธิการวาติกัน โควิด-19 ซึ่งก่อตั้งโดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ซิสเตอร์อเลสซานดรา สเมริลลี คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ (FMA) เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 ในเมืองวาสโต ประเทศอิตาลี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองจากคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย La Sapienza แห่งกรุงโรม และปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย East Anglia ในเมืองนอริช (สหราชอาณาจักร) ซิสเตอร์อเลสซานดรา มีความมุ่งมั่นในการรับใช้พระศาสนจักร และปรารถนาแสดงความขอบคุณต่อสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสสำหรับการแต่งตั้ง ดังนี้ “ฉันสำนึกด้วยใจรู้คุณต่อพระสันตะปาปาบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับหน้าที่ที่พระองค์ทรงมอบให้ ฉันสวดภาวนาขอพระเจ้าได้ทรงช่วยให้ฉันทำงานนี้ด้วยจิตวิญญาณแห่งความเชื่อฟังต่อพระศาสนจักร ด้วยความถ่อมตน มุ่งมั่น คิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการฟัง ความปรารถนาทั้งหมดและความตั้งใจจริงของฉัน คือการรับใช้พันธกิจของพระศาสนจักรอย่างสุดความสามารถ ตราบเท่าที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเห็นควร”
Leave a Reply