ขอเชิญร่วมแสดงความยินดี
Guestbook

ซิสเตอร์ อานาโรซา ซีโวรี
๕๐ ปี แห่งชีวิตนักบวช

พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าฯอย่างผู้เลี้ยงแกะ ข้าฯ จึงไม่ขาดสิ่งใด...

 

เกิดวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ.1942 / พ.ศ. 2485
เป็นบุตรคนที่ 2 ในพี่น้องทั้งหมด 3 คน

 

อาศัยอยู่ที่ บูเอนอส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตีนา

 

บิดา ชื่อ Vicente Agustin

มารดา ชื่อ  Fermina Suso

 

ความเป็นมาของกระแสเรียก  : ตั้งแต่แรกไม่ได้คิดว่าจะเลือกชีวิตนักบวช เพราะเป็นคนชอบสนุกสนานและรักอิสระ  แต่เมื่อได้เข้าเรียนที่โรงเรียนของซิสเตอร์คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ตั้งแต่เล็กจนเมื่อเติบโตขึ้น ก็ได้มีความคิดว่าชีวิตที่ว่างเปล่า เป็นชีวิตที่ไม่มีแก่น ไม่มีอะไรที่เป็นสาระ จึงเขียนจดหมายน้อยฉบับหนึ่งขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ ท่านทั้งสองเห็นดีด้วย และดีใจมาก เพราะท่านเองก็ได้ภาวนาขอพระปรารถนาให้ลูกสักคนได้เป็นบวช

 

ความประทับใจในชีวิต :  ดิฉันประทับใจในความรักของพระเจ้าและความเมตตากรุณาที่ทรงไว้วางใจเรียกดิฉันให้มาเป็นธรรมฑูต ได้มีโอกาสประกาศถึงพระองค์แก่ผู้ที่ยังไม่รู้จักและมอบพระองค์แก่ผู้ที่ต้องการแสงสว่างจากพระองค์

 

พระวาจาประจำใจ : พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าฯอย่างผู้เลี้ยงแกะ ข้าฯจึงไม่ขาดสิ่งใด... (สดด.22)

 

บทบาทของพระเจ้าหรือพระมารดาในชีวิต : พระเจ้าและพระแม่ทรงเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

T O P

ซิสเตอร์ ศรีสุดา สุทธิรัตนากร
๒๕ ปี แห่งชีวิตนักบวช

จะเป็นประโยชน์อะไรกับชีวิตหากได้ทั้งโลกเป็นกำไร
แต่ต้องสูญเสียวิญญาณ

เกิดวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ.1964

เป็นคนที่ 12  ในจำนวนพี่น้อง 12 คน

 

อาศัยอยู่ที่ 84 หมู่ 3 ต.ดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ. ราชบุรี

บิดา นายจิ้นเต็ด แซ่เหลี่ยว  มารดา นางเช็ง แซ่เหลี่ยว บิดาเสียชีวิตตั้งแต่ข้าพเจ้า มีอายุ 2 ปีครึ่ง พี่น้องทั้งหมด 12 คน เสียชีวิตแล้ว 3 คน

 

ความเป็นมาของกระแสเรียก ตั้งแต่ต้นปรารถนาจะทำงานอุทิศตน ไม่ตีค่าความเหน็ดเหนื่อยเป็นค่าของเงิน จึงต้องแสวงหาการทำงานโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ซึ่งก็คือการเป็นนักบวช และกอร์ปกับ ต้องการขอบคุณพระเป็นเจ้าที่โปรดเมตตาอวยพระพร ครอบครัวของดิฉัน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีฐานะปานกลางหลุดจากคำปรามาสของชาวบ้าน เพราะขณะเมื่อบิดาเสียชีวิตมีลูกๆหลายคนยังเล็กอยู่ เพราะ มีคุณแม่แต่ลำพังที่เป็นชาวสวนไม่รู้หนังสือจะเลี้ยงดูลูกๆอย่างไรให้มีอนาคตได้  คงต้องถือกะลาขอทาน ทุกคนในครอบครัวได้รับการอบรมดูแลจากคุณแม่เป็นต้นในการปลูกฝังความเชื่อความศรัทธาให้ปฏิบัติหน้าที่คริสตชนที่ดี ไปวัดสวดภาวนาไม่เคยขาดจนเป็นตัวอย่างที่คุณพ่อเจ้าอาวาสยกย่องให้เป็นตัวอย่างของวัดดอนกระเบื้อง

      กระแสเรียกของข้าพเจ้าได้รับการค้ำพยุงให้กำลังและก้าวเดินโดยความช่วยเหลือจากพระเยซูเจ้า และ แม่พระโดยตรง รวมถึงผู้ใหญ่ที่เข้าใจและนำทางด้วยความเข้มแข็งในแต่ละช่วงตอนอย่างต่อเนื่องเป็นต้นซิสเตอร์เอสเตรีนา ปรันโด ที่ทำให้ข้าพเจ้าได้หวลระลึกถึงด้วยความรู้คุณ และมีวันนี้ที่ฉลอง 25 ปีแห่งการเป็นนักบวช

 

พระวาจา ประจำใจ : จะเป็นประโยชน์อะไรกับชีวิตหากได้ทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องสูญเสียวิญญาณ

เมื่อตัดสินใจเข้าคณะ :

     - พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ ..ข้าพเจ้ามา เพื่อทำตามน้ำพระทัยพระองค์

     - เมล็ดข้าวถ้าไม่ตกในดินและเปื่อยเน่า และตายไปก็จะคงอยู่เพียงเมล็ดเดียว แต่ถ้าตายไปก็จะเกิดผลมากมาย

 

บทบาทของพระหรือพระมารดาในชีวิต  พระองค์ทรงอยู่ใกล้ และคอยช่วยเหลือในการดำเนินชีวิต เป็นต้นในด้านภารกิจ อยู่ในพระพรของพระอย่างต่อเนื่องตลอดมา ตั้งแต่ช่วงของการเป็นผู้ฝึกหัดจนถึงปัจจุบัน

T O P

ซิสเตอร์ รุจิรา เจริญรัตน์
๒๕ ปี แห่งชีวิตนักบวช

ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้
ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า

เกิดวันที่ 16 มกราคม ค.ศ.1966

บิดา นายเสงี่ยม เจริญรัตน์   มารดา  นางทองเลียบ  เจริญรัตน์ (เสียชีวิตทั้ง 2 ท่าน)

เป็นคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 8 คน (ชาย 3 หญิง 5)

สัตบุรุษ อาสนวิหารพระมารดานิจจานุเคราะห์  จังหวัดอุดรธานี

 

พระวาจา :  ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า  (ฟิลิปปี 4.13)

 

พระเป็นเจ้าในชีวิต

สิ่งที่สามารถพูดได้ด้วยชีวิต คือขอขอบคุณพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงเมตตาต่อฉันมาก ทรงเป็นพระญาณเอื้ออาทรสำหรับฉันในทุกเหตุการณ์ ทุกเรื่องราว และบุคคลมากมายที่ผ่านมาในชีวิต  พระองค์ทรงใช้เพื่อให้เกิดความดีแก่ฉัน  ขอเพียงความไว้ใจและความพากเพียรรอคอย  พระเป็นเจ้าทรงจดจำและเหลียวมองเจ้าสาวของพระองค์เสมอ เวลานี้เป็นเวลาของการประกาศถึงความรักที่พระองค์ทรงมีต่อฉัน และจะประกาศต่อ ๆ ไปในวันเวลาที่ยังเหลืออยู่....  นอกจากนี้ ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกคนในครอบครัว ที่รักและดูแลเอาใจใส่ แทนพ่อแม่และพี่สาวคนโตที่ไปอยู่กับพระแล้ว ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านในเส้นทางแห่งการอบรมที่สอนให้รู้จักฟังเสียงพระคริสตเจ้าเยี่ยงธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์     ขอบคุณผู้ใหญ่และสมาชิกทุกคนในคณะ ที่เจริญชีวิตร่วมกันในการติดตามพระคริสต์เจ้าในพระพรพิเศษ ตามจิตตารมณ์ของคณะ   ขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้าในชีวิต  เติมเต็มชีวิตให้แข็งแกร่ง เพื่อให้ชีวิตนี้ถวายแด่พระเจ้าตลอดไป

 

ความเป็นมาของกระแสเรียก

เมื่ออยู่ชั้นป.3 ในวันรับศีลมหาสนิทครั้งแรก ซิสเตอร์ผู้สอนคำสอนบอกว่า”โอกาสนี้เราสามารถขอพระคุณพิเศษจากพระ และพระองค์จะให้ตามที่เราขอ”  สิ่งหนึ่งที่ได้ขอในวันนั้นคือ  “ขอให้ได้เป็นซิสเตอร์และเป็นซิสเตอร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย ถ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ตายก่อนเลย” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงกล้าขอกับพระเช่นนี้  และถ้าพระองค์ถือตามเงื่อนไขที่ขอ คงไม่มีวันนี้ที่ครบ 25 ปี  และเหตุการณ์หนึ่งที่จุดประกายให้ฉันคิดถึงกระแสเรียกคือ  ฉันต้องเอาลูกแมว 4-5 ตัว ไปปล่อย  วันนั้นฉันขี่จักรยานไปไกลมากและเลี้ยวไปมาตามถนน เพื่อให้แมวจำทางกลับไม่ได้ แต่เส้นทางนี้ไม่คุ้นเลย และสุดปลายถนนนั้นเห็นเด็กจำนวนมากอาศัยในกล่องไม้ขนาดใหญ่ นอนในนั้น เก็บถุงพลาสติกมาล้างตากเป็นราว ฉันยืนมองดูด้วยความสะเทือนใจ และคิดในใจว่า “พวกเขาคงจะไม่รู้จักพระ อย่างที่ฉันรู้จัก ฉันอยากสอนให้พวกเขารู้จักพระ ถ้าฉันเป็นซิสเตอร์จะมีโอกาสสอนและช่วยเด็กๆเหล่านั้นได้” จากนั้นเมื่ออยู่ ป.5-ป.6 มีการสัมผัสกระแสเรียกของซิสเตอร์คณะต่าง ๆที่โรงเรียนเซนต์เมรี่ หลังจากจบการสัมมนาฉันได้ขออนุญาตจากคุณแม่เพื่อไปศึกษาชีวิตของซิสเตอร์คณะธิดาเมตตาธรรมที่ขอนแก่น  เมื่อได้รับการอนุญาตแล้วได้เดินทางร่วมกับซิสเตอร์ธิดาเมตตาธรรม และเพื่อนอีก 1 คนโดยรถไฟ อยู่ที่นั่น 2-3 วันบรรดาซิสเตอร์ให้การต้อนรับราวกับว่าเราเป็นคนที่สำคัญทั้งๆที่เราเป็นแค่เด็กป. 5 เท่านั้น ได้ไปบ้านผู้ฝึกหัด มีการร้องเพลง เล่นกีตาร์ต้อนรับ เลี้ยงขนมและสวดภาวนาด้วยกัน และพาไปเยี่ยมชาวบ้าน ซึ่งเป็นความประทับใจอย่างมากทีเดียว เมื่อกลับมาซิสเตอร์อันโตเนียตาเรียกฉันมาคุย ท่านพาเดินรอบโรงเรียนจำได้ว่าหลายรอบมาก  ซึ่งสมัยนั้น โรงเรียนเซนต์เมรี่มีอาคารชั้นเดียวเป็นรูปเครื่องบิน และมีแต่พื้นหญ้าแห้งๆ กว้างใหญ่มาก เดินไปมาหลายรอบจนเหนื่อย ที่สุดจำไม่ได้เลยว่าท่านพูด สอนอะไรบ้าง นึกในใจอย่างเดียวว่า เข็ดแล้วไม่ไปอีกแล้วและไม่มีความคิดที่จะไปศึกษากระแสเรียกของคณะอื่นอีกเลย   แต่ยังไม่ตัดสินใจเข้าในคณะใด  ฉันอยู่กับแม่ ช่วยทำงานที่บ้าน จนจบชั้นม.3  จึงได้ตัดสินใจไปเรียนต่อที่โรงเรียนนารีวุฒิ บ้านโป่ง  ซึ่งพี่สาวได้ไปเข้าก่อนโดยไม่ได้นัดหมายกัน ทุกครั้งพี่กลับมาเยี่ยมบ้าน พี่จะสอนให้ทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสียสละ สวดภาวนา ยิ่งทำให้เกิดความปรารถนาที่จะเป็นซิสเตอร์มากขึ้น โดยปกติเมื่อผู้ใหญ่มาเยี่ยมโรงเรียน นักเรียนคาทอลิกในระดับมัธยมจะมีโอกาสพูดคุยกับท่าน พวกเราจะรู้สึกตื่นเต้นมาก ซิสเตอร์นาเดีย แฟร์โร  เจ้าคณะแขวงในเวลานั้นจะถามทุกข์สุข ให้กำลังใจเราทีละคน เยี่ยงใจมารดา และเป็นเหมือนแม่พระจริงๆ

 

แม่พระมีบทบาทในชีวิตของฉัน

ตั้งแต่เด็กฉันรักแม่พระมาก ได้ทำข้อตั้งใจที่จะทำวันเสาร์ต้นเดือนอย่างดีและสม่ำเสมอแต่ไม่ใช่ง่ายเลยเพราะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำงานบ้านให้เสร็จก่อนถึงจะสามารถไปมิสซาได้ เวลา06.15น. เมื่ออยู่ชั้นม.1 ด้วยความรักศรัทธาต่อแม่พระทำให้ฉันปรึกษากับซิสเตอร์อันนา ลัทธนันท์ เรื่องการเข้าเป็นสมาชิกคณะ Blue Army กองทัพสีฟ้า กล้าที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิก เพราะอยากให้ชื่อของตนเองประดับที่ต้นไม้ที่แม่พระประจักษ์มาและชวนเพื่อนสมัครเข้าคณะ Blue Army ด้วย  กิจกรรมที่สมาชิกต้องทำคือสวดสายประคำและเขียนจดหมายติดต่อกับผู้รับผิดชอบคณะเป็นระยะๆ เพื่อเล่าถึงความรักที่พวกเรามีต่อพระนาง วันหนึ่งโอกาสรูปแม่พระฟาติมาเสด็จมาที่อุดรธานี ผู้รับผิดชอบคณะ Blue Army เป็นผู้นำแม่พระมาและท่านต้องการรู้จักกับฉัน เมื่อได้พบฉันแล้ว ท่านตกใจมากไม่คิดว่าฉันเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆเท่านั้น เวลานั้นฉันไม่คิดอะไรมาก เพราะความสนใจของฉันอยู่ที่แม่พระเท่านั้น ฉันรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมาก ตลอดเวลาฉันสัมผัสได้ว่าแม่พระเป็นแม่ที่ใจดีมาก ใส่ใจแม้กระทั่งการต่อรองและการขอเพื่อจะได้อะไรบางอย่าง โดยเฉพาะเมื่อต้องสอบวิชาต่างๆ  เพราะฉันไม่ใช่คนฉลาดนัก ต้องอาศัยความขยันเป็นส่วนใหญ่และพระนางได้ให้ความช่วยเหลือที่ทันเวลาเสมอ และยิ่งกว่านั้นในเส้นทางของชีวิตนักบวช แม่พระเป็นแบบอย่างของชีวิตที่อุทิศตน เป็นผู้คุ้มครองดูแลในทุกย่างก้าวของฉันให้ลุถึงแผนการแห่งความรักอันไพบูลย์ของพระเป็นเจ้า

T O P

ซิสเตอร์ กุลธิดา แก้วอุดร
๒๕ ปี แห่งชีวิตนักบวช

“…..God  will  be  all  in  all “

เกิดวันที่  29 มกราคม พ.ศ. 2509 / ค.ศ. 1966

  เป็นบุตรคนที 1 ในพี่น้องทั้งหมด 2 คน

 

อาศัยอยู่ที่  25  หมู่ 8  บ้านท่าบม   ต.เขาแก้ว  อ.เชียงคาน   จ. เลย

 

บิดา นายสมบูรณ์  แก้วอุดร

มารดา นางทอง แก้วอุดร  (เสียชีวิต )

พี่ชาย นายพิตร แก้วอุดร สมรส มีบุตร 2 คน

 

ความเป็นมาของกระแสเรียก คุณพ่อ ไมเกิ้ล เชร์ คณะพระมหาไถ่ได้ส่งมาเรียนที่โรงเรียน เซนต์เมรี่ อุดรธานี และซิสเตอร์คัทริน โอเปสโซ ได้แนะนำ ติดตามดูแลและรับเข้าเป็นสมาชิกในคณะ

 

ความประทับใจในชีวิต พระเจ้าทรงพระทัยดี  พระองค์ทรงเตรียมทุกอย่างไว้สำหรับข้าพเจ้า

 

พระวาจา ประจำใจ  “…..God  will  be  all  in  all “ (1cor. 15,28)

 

บทบาทของพระหรือพระมารดาในชีวิต  พระแม่ทรงเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างสำหรับชีวิตในความซื่อและสุภาพ

ซิสเตอร์ มาลี ดวงมาลา
๒๕ ปี แห่งชีวิตนักบวช

พระเจ้าทรงพอพระทัยผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี

เกิดเมื่อวันที่  27 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 / ค.ศ.1968

มีพี่น้อง 7 คน เป็นคนที่ 7

 

อาศัยอยู่ที่ 17 หมู่ 4 บ. เซซ่ง   ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

 

บิดา ชื่อ นุ่ม   มารดา ชื่อ สี ดวงมาลา

 

ความเป็นมาของกระแสเรียก

 เริ่มแรกแค่อยากลองดู….

 พอเวลาผ่านไป ก็พูดได้แค่ว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่.....

 พระเจ้าทรงนำในทุกการเคลื่อนไปของชีวิต....

 ทรงประทานพระพร ทรงอวยพรอย่างอุดม....

 

พระวาจานำทางชีวิต  พระเจ้าทรงพอพระทัยผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี

 

พระเจ้าในชีวิตของข้าพเจ้า วางใจในพระจิตเจ้า ไม่ว่าจะทำอะไร ข้าพเจ้าขอให้พระองค์นำ และทรงทำให้สัมผัสได้ว่าทรงอยู่จริง

ทรงสอน ทรงให้กำลังที่สดใหม่เสมอ

T O P

คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ แห่งประเทศไทย
เข้าหน้าหลัก ธมอ www.fma.or.th