ต้อนรับพระธาตุคุณพ่อบอสโก

db_8_1เมื่อถูกไล่จากบริเวณวัดนักบุญเปโตรต้องพันธนาการแล้วนักบุญยอห์นบอสโกก็ได้รับอนุญาตจากเทศบาล   ให้รวบรวมเด็กของท่านที่วัด โมลัซซี ซึ่งในบริเวณนั้นมีโรงสีของเมืองตั้งอยู่

       แต่แม้ที่นี่ เพียงแต่ครั้งแรกที่รวบรวมกองทัพเด็กซึ่งชอบเฮฮาร่าเริง ประชาชนรอบข้างที่พากันประท้วงคัดค้านแล้ว รวมทั้งเจ้าของโรงสี และคนงานในโรงสีทุกคนด้วย แต่ผู้ที่ร้ายกว่าหมดดูเหมือนจะเป็นเลขานุการของโรงสี ซึ่งพยายามรวบรวมหลักฐานพยานเท็จจากทุกแห่งมาเขียนเป็นจดหมายเสียยืดยาวถึงเทศบาลเพื่อฟ้องร้องบรรดาเด็กที่น่าสงสารเหล่านั้น รวมทั้งพ่อบอสโกซึ่งเป็นผู้นำการชุมนุมนี้ด้วย   ผลก็คือคณะเทศมนตรีลงมติไล่คุณพ่อบอสโกและเด็กๆ ให้ออกไปจากที่นั้นทันที

       เมื่อท่านนักบุญแจ้งข่าวนี้ให้เด็กของท่านทราบแล้ว ท่านได้กล่าวให้กำลังใจว่า....

"เราต้องย้ายที่กันอีกแล้ว แต่ไม่ต้องกลัว กะหล่ำปลี เมื่อถูกย้ายก็ยิ่งงาม

คอยดู เราจะเป็นกะหล่ำปลีที่ใหญ่โตจริงๆ.....และกล่าวเป็นเชิงทำนายต่อไปว่า...พระญาณเอื้ออาธรของพระเป็นเจ้าจะเอาเรื่องแทนความบริสุทธิ์ของพวกเราเอง"

       คำทำนายของท่านนักบุญยอห์นบอสโกได้สำเร็จเสร็จสิ้นทุกประการ เพราะว่าจดหมายฟ้องนั้น เป็นจดหมายฉบับสุดท้ายซึ่งเลขานุการโรงสีผู้นั้นเขียนได้ เนื่องด้วยเขาเป็นไข้จับสั่นอย่างรุนแรง และภายในไม่กี่วันก็ตายไป ทิ้งลูกไว้เป็นกำพร้าหาที่พักพิงมิได้ ต้องเร่ร่อนตามถนนเป็นเด็กขอทาน และเข้าไปอยู่ในศูนย์ยุวชนซึ่งนักบุญยอห์นบอสโกได้ตั้งขึ้น

       เมื่อถูกไล่จากบริเวณโรงสีแล้ว   คุณพ่อบอสโกก็จำใจต้องไปเช่าทุ่งแห่งหนึ่งให้เด็กๆ ของท่าน และในทุ่งแห่งนี้ ท่านได้สอนคำสอนและเทศน์ด้วย ส่วนเรื่องมิสซานั้น ท่านมักพาเด็กๆ ไปฟังตามวัดใกล้เคียง เดี๋ยวที่นี่เดี๋ยวที่โน่น หมุนเวียนกันไปdb_8_2

db_lakorn
db_spot_info
db_mv1
db_music

db_nimit1

db_nimit2