ต้อนรับพระธาตุคุณพ่อบอสโก

คลิปเสียงหนังสือนิมิตรสรรค์ 2

Get the Flash Player To see this player.

คุณพ่อบอสโกได้ฝันว่าดูเหมือนตนเองได้อยู่ในบอร์โกซานซัลวารีโอที่กรุงตุริน ที่นั่นมีคณะนักบวชต่าง ๆ ทั้งชายหญิงกำลังชุมนุมกันอยู่และดูเหมือนพวกเขากำลังคอยคุณพ่ออยู่ที่เดียว พอคุณพ่อเข้าไปทุกคนต่างเพ่งตาไปยังท่าน ในเวลานั้นเองได้เห็นบุรุษแปลกหน้าผู้หนึ่งซึ่งพันศีรษะด้วยผ้าพันแผลสีขาวและคลุมตัวด้วยผ้าคล้ายผ้าปูที่นอน คุณพ่อบอสโกอยากทราบว่าบุรุษที่พันศีรษะแปลก ๆ นี้เป็นใคร ทันใดก็ได้ยินเสียงตอบมาว่า ก็คือ “ตัวท่านเองนั่นแหละ”

พอพ่อเดินไปข้างหน้าบรรดานักบวชที่อยู่นั้นต่างมาห้อมล้อมพ่อและก็ไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้ม พ่อมองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ แต่ทุกคนยังคงยิ้มต่อไปและไม่มีใครพูดเช่นเดิม

ในที่สุดพ่อจึงเริ่มพูดว่า “ทำไมจึงยิ้มแย้มแบบนี้ ? ดูเหมือนพวกท่านยิ้มเยาะเรากระนั้น”

“เรามิได้ยิ้มเยาะคุณพ่อดอก ท่านเข้าใจผิดเอง เรายิ้มเพราะเราได้เดาแล้วถึงสาเหตุที่ท่านมาที่นี่”

“พวกท่านเดาได้อย่างไร ในเมื่อพ่อเองก็ยังไม่ทราบว่าพ่อมาทำไม การยิ้มของพวกท่านทำให้พ่อประหลาดใจนัก”

“เหตุที่คุณพ่อมาที่นี่ก็เพราะคุณพ่อได้เทศน์เข้าเงียบที่ลานโซแก่พวกเณรของคุณพ่อนะซี”

“เอ๊ะ แล้วเกี่ยวข้องกันอย่างไร ?”

“ก็เดี๋ยวนี้คุณพ่อมาที่เพื่อมาหาใจความสำคัญเทศน์ครั้งสุดท้ายในวันออกเงียบไงล่ะ”

“ขอให้เป็นเช่นนั้นเถิด ถ้าพวกท่านช่วยแนะนำหน่อยว่าพ่อจะต้องเตือนอะไรเพื่อให้คณะนักบุญฟรานซิส เดอซาล (ซาเลเซียน) เจริญก้าวหน้าพ่อจะยินดีมากและรับไว้ด้วยความขอบคุณ”

“เราขอเสนอเพียงอย่างเดียวคือ ให้บอกลูก ๆ ของท่านให้ระวังและป้องกันอย่าติดเชื้อรา”

“เชื้อราหรือ? ไม่เห็นเข้าเรื่องเลย”

“ถ้าเชื้อรานั้นไม่ย่างกรายมาในคณะของท่าน จะเจริญก้าวหน้าและจะสามารถทำความดีแก่วิญญาณมากมาย”

“พ่อไม่เข้าใจอะไรเลย”

“อะไร ไม่เข้าใจหรือ เชื้อรานี้เป็นภัยพิบัติที่นำความพินาศแก่คณะ นักบวชหลายคณะ และเป็นเหตุที่ทำให้หลายคณะไม่บรรลุจุดหมายสูงสุดของเขา”

“การแนะนำนี้จะไร้ประโยชน์ ถ้าพวกท่านไม่อธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะพ่อไม่เข้าใจเลย”

“”อย่างนั้นเทวศาสตร์ที่พ่อเรียนมามากมายจะมีประโยชน์อะไร”

“ถ้าเรียนเท่าที่เป็นหน้าที่ต้องเรียน และในวิชานั้นไม่เห็นมีเรื่องเชื้อราเลย”

“มีพูดถึงแน่ ๆ คุณพ่อลองตีความของมันเหนือธรรมชาติซี”

“ไม่เห็นมีวี่แวว ที่จะสามารถตีความหมายเหนือธรรมชาติได้เลย”

“ถ้าคุณพ่อไม่อาจตีความหมายอันลึกลับได้ อย่างนั้นก็จะมีผู้อธิบายให้”

ในเวลานั้นพ่อได้สังเกตเห็นพวกเขาขยับตัวหลีกทาง ทันใดก็เห็นบุรุษแปลกหน้าเดินเข้ามา พ่อได้จ้องมองบุรุษผู้นั้น ดูเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน แต่อากัปกริยาของเขาดูเหมือนเคยรู้จักกันมาแล้ว เขาเข้ามาถึงใกล้ ๆ พ่อจึงพูดขึ้นว่า

“แหม มาได้ทันการณ์ทีเดียว มาช่วยแก้หน้าพ่อหน่อยเพราะพวกนี้ได้ถามพ่อหลายอย่างและพ่อตอบว่าไม่ได้ พวกเขาได้อ้างว่าเชื้อราจะทำลายบ้านนักบวชและพวกเขาอยากให้พ่อเอาเรื่องนี้เป็นหัวข้อสรุปการเทศน์เข้าเงียบประจำปี”

“คุณพ่อบอสโก ท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้ปรีชาฉลาด แต่ยังไม่ทราบเรื่องเหล่านี้หรือ ? เป็นที่แน่นอนว่าถ้าท่านจะต่อสู้กับเชื้อราด้วยสุดกำลังและสอนวิธีต่อสู้นี้แก่ลูก ๆ ของท่านด้วย คณะของท่านก็จะเจริญก้าวหน้า ท่านทราบไหมเชื้อรานั้นคืออะไร”

“ก็เป็นโรคชนิดหนึ่งที่เกิดกับต้นไม้ ทำให้ต้นไม้ค่อย ๆ เฉาตาย”

“และเชื้อรามาจากไหน”

“มาจากสัตว์เล็ก ๆ เป็นจำนวนมากที่มาเกาะต้นไม้”

“และต้องทำอย่างไรจึงไม่ระบาดไปยังต้นอื่น”

“พ่อก็ไม่ทราบเหมือนกัน”

“จงฟังดี ๆ สิ่งที่เรากำลังจะบอกให้ เชื้อรานี้เริ่มปรากฏในต้นไม้ต้นเดียวและไม่นานต้นที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็จะพลอยติดไปด้วย และแผ่ขยายวงกว้างออกไป เมื่อในสวนองุ่น สวนผลไม้หรือสวนดอกไม้เริ่มมีเชื้อรานี้มันจะลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ความสวยงามและผลที่หวังจะได้จากสวนนั้นก็จะสูญสลายไปแล้วคุณพ่อทราบไหมเชื้อรานี้แพร่ไปได้อย่างไร ? ไม่ใช่เพราะต้นติดกันไม่ใช่เพราะสัตว์เล็ก ๆ นั้นคืบคลานไปหรือบินไปยังต้นอื่น แต่เป็นลมที่พัดพาไปติดต้นอื่นมันติดได้อย่างรวดเร็วที่สุด และนำความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ดังนั้น ให้คุณพ่อทราบว่า ลมแห่งการบ่นและนินทาจะพัดเชื้อราแห่งความไม่นบนอบไปไกล เข้าใจไหม?”

“เริ่มเข้าใจครับ”

“ลมแห่งการบ่นและนินทานี้จะพัดเชื้อราแห่งความไม่นบนอบไปไกลอันจะก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย ในบ้านที่มีกิจการใหญ่โตและดำเนินไปอย่างดีก็จะเริ่มเสื่อมโทรมลง ความรักซึ่งกันและกันค่อย ๆ ลดลง ความร้อนรนในการช่วยวิญญาณค่อย ๆ สูญหายไป การนิ่งเฉยจะเข้ามาแทนที่ และคุณธรรมอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ ลดลงเป็นลำดับ ในที่สุดบ้านนั้นจะกลับเป็นที่สะดุด ถูกทอดทิ้งทั้งจากพระและเพื่อนมนุษย์ เพื่อแก้สถานการณ์เช่นนี้ไม่เพียงพอที่จะย้ายตัวบุคคลไปที่อื่น เพียงแต่ลมนี้พัดเท่านั้นเชื้อราก็แพร่ไปแล้ว จงเชื่อเถิดว่า นี่คือสาเหตุที่ทำความพินาศแก่คณะนักบวชต่าง ๆ”

“ท่านพูดถูกทีเดียว พ่อเข้าใจความจริงข้อนี้แต่จะต้องทำอย่างไรเพื่อป้องกันอันตรายนี้”

“จะใช้วิธีโอนอ่อนผ่อนผันไม่ได้จำเป็นต้องจัดการอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อราที่อยู่บนต้นไม้ ปูนขาวหรือสารเคมีอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่เป็นวิธีที่ได้ผลแน่นอน เพราะว่าเชื้อราจากเพียงต้นเดียวสามารถแพร่ไปทั่วสวนได้ภายในพริบตาเดียว แล้วจากสวนหนึ่งก็แพร่ไปยังอีกสวนหนึ่งแล้วก็ทั่วบริเวณนั้น ทั่วตำบล ทั่วจังหวัดและก็ทั่วประเทศ คุณพ่ออยากรู้วิธีที่จะทำให้มันหยุดชะงักตั้งแต่ต้นไหม?”

พอเชื้อราปรากฏบนต้นหนึ่งต้องค่อย ๆ ตัดมันทิ้งเสีย ตัดกิ่งรอบ ๆ และเผาไฟเสีย ถ้าเป็นหมดทั้งสวนก็ให้ตัดทิ้งทั้งหมดแล้วเผาเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ระบาดไปยังสวนอื่น เฉพาะไฟเท่านั้นที่จะทำลายได้ ดังนั้นในบ้านใดที่ปรากฏมีโรคแห่งการดื้อกระด้างต่อความประสงค์ของผู้ใหญ่ ประมาณต่อการถือพระวินัย ดูหมิ่นต่อระเบียบของหมู่คณะ ท่านไม่คอยอะไรอีกต่อไป ให้กำจัดทันทีโดยขุดรากเหง้าของบ้านนั้นเสีย ให้รื้อบ้านนั้นทิ้งอย่างเด็ดขาด โดยไม่ต้องรีรอ หมายความว่าให้จัดการกับบุคคลที่เป็นโรคนี้อย่างที่ทำกับบ้านบางทีคุณพ่ออาจจะคิดว่าถ้าแยกไว้ต่างหาก อาจจะหายและแก้ตัวใหม่ได้ หรืออาจจะเสียใจที่ต้องไล่เขาไป เพราะความรักต่อเขาหรือเพราะเขาเป็นพรสวรรค์มีความรู้ที่อาจจะทำประโยชน์ให้แก่คณะได้มากมาย จงอย่าให้เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้คุณพ่อใจอ่อน เพราะเป็นการยากที่บุคคลเหล่านี้จะเปลี่ยนชีวิต เราไม่ปฏิเสธทีเดียวว่าการที่เขาจะกลับใจใหม่นั้นเป็นไปไม่ได้ แต่เราถือว่าเป็นสิ่งที่ยากมาก จึงไม่ใช่เหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งใจอ่อนเปลี่ยนความคิดไป บางคนอาจจะบอกว่า ถ้าเขาจะอยู่ในโลกก็ยิ่งแย่ใหญ่ก็จงปล่อยให้เป็นไปเช่นนั้นเขาจะต้องรับผิดชอบถึงความประพฤติของเขาแต่คณะจะไม่ต้องรับความเสียหายอันเนื่องมาจากเขา

“ถ้าเขาอยู่ในคณะอีกต่อไป อาศัยความใจดีอาจจะช่วยให้เขากลับใจได้”

“การสมมุตินี้ใช้ไม่ได้ ส่งคนที่จองหองแบบนี้กลับบ้านดีกว่าปล่อยให้อยู่แล้วต้องมานั่งเป็นห่วงกลัวเขาจะหว่านข้าวละมานในสวนของพระเป็นเจ้า จงจำไว้ข้อคิดนี้ไว้ให้ดี ๆ นะ และถ้าจำเป็นให้ปฏิบัติตามด้วย จงเอาเป็นหัวเรื่องในการอบรมอธิการ และเป็นหัวข้อสำหรับเทศน์ปิดเข้าเงียบ”

“ครับ พ่อจะทำตาม ขอบใจมากในคำแนะนำของท่าน แต่เดี๋ยวนี้ท่านจะกรุณาบอกพ่อได้ไหมว่าท่านคือใคร”

“ท่านจำเราไม่ได้หรือ? เราเคยเห็นกันมาตั้งหลายครั้งแล้ว? ”

ขณะที่บุรุษแปลกหน้าพูดทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ก็หัวเราะ แล้วกระดิ่งปลุกก็กังวาลขึ้นทำให้พ่อตกใจตื่น

(จากหนังสือประวัตินักบุญยวงบอสโก เล่ม 12 หน้า 475)

db_lakorn
db_spot_info
db_mv1
db_music

db_nimit1

db_nimit2