03 October 2010
นอกจากความสามารถต่างๆ แล้ว นักบุญของเรายังสามารถอ่านในใจของผู้อื่นได้อีกด้วย ท่านเคานท์แห่งกัมบูรซาโน ซึ่งเป็นคนหนึ่งในคณะรัฐบาลที่มีเกียรติสูง ทั้งเป็นผู้ที่มีความเลื่อมใสในตัวคุณพ่อบอสโกมากด้วย
วันหนึ่ง ในการพบปะสนทนากับผู้มีบรรดาศักดิ์มากมายท่านได้เล่าถึงเรื่องอันน่าอัศจรรย์ต่างๆ เกี่ยวกับคุณพ่อบอสโกของเรา แต่ปรากฏว่าคนทั้งหลายต่างพากันฟังด้วยอาการอันขบขันและเยาะเย้ยด้วยซ้ำ ที่สุด มีหญิงแก่แดดคนหนึ่งพูดขึ้นว่า...
"แหม ฉันอยากเห็นมนุษย์อัศจรรย์คนนี้สักที ฉันอยากให้เขาบอกสภาพแห่งมโนธรรมของฉันสักหน่อย ถ้าเขาบอกได้ละก็ฉันจึงจะเชื่อ"
ทุกคนเห็นด้วย และตกลงจะทำการทดลองนี้ สตรีผู้นั้นจึงได้รีบเขียนจดหมายไปถึงคุณพ่อบอสโกตามใจความที่ตกลงกันนั้นทันที
ฝ่ายท่านนักบุญก็ได้ตอบอย่างรวดเร็วทันใจและอย่างสุภาพซื่อๆ ตามเคย ท่านได้ฝากจดหมายตอบของท่านให้ผู้ที่นำจดหมายสตรีผู้นั้นมา บอกให้เขานำไปให้นางในเวลานั้นเองจดหมายตอบของคุณพ่อบอสโกมีใจความว่า......
"คุณนายจะมีมโนธรรมที่สงบสุขได้ก็ต่อเมื่อคุณนายจะไปคืนดีกับสามีซึ่งคุณนายได้หย่ามา และเมื่อจะได้แก้บาปอย่างดีเสียใหม่สำหรับชดเชยการแก้บาปทั้งหมดที่
คุณนาย ได้ทุราจารตลอด 20 ปีที่ล่วงมานี้"
แท้จริงคุณพ่อบอสโกไม่เคยรู้จัก ทั้งไม่เคยเห็นสตรีผู้นั้นมาก่อนเลย ส่วนคนอื่นๆ ที่รู้จักนาง ต่างแน่ใจว่านางเป็นม่ายด้วยกันทั้งนั้น
เมื่อได้รับคำตอบของคุณพ่อบอสโกเช่นนี้ สตรีผู้นั้นก็ถึงกับตกตะลึง และซ้ำประโยคนี้บ่อยๆ ว่า....
"เอ.....เขารู้ได้อย่างไรนะ...." แล้วนางก็ไม่สามารถมีความสุขได้เลย
คุณพ่อบอสโกเคยไปที่เมือง นิซซา มาริตตี มาหลายครั้งและครั้งหนึ่งท่านไปเพราะได้รับเชิญจากพระสังฆราชโปสเตลคราวนี้ หลังจากที่ได้สนทนากันอย่างยืดยาวแล้ว พระสังฆราชก็ได้ถามคุณพ่อบอสโกออกมาโต้งๆ ว่า... "นี่ คุณพ่อบอสโก ช่วยบอกฉันหน่อยซิว่า ฉันอยู่ในสภาพที่เป็นมิตรกับพระเป็นเจ้าหรือเปล่า"
ฝ่ายท่านนักบุญ มองพระสังฆราชอย่างแปลกใจ ไม่ยอมพูดเนื่องด้วยตัวเป็นผู้น้อยกลัวจะขัดต่อความนับถือ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงทำท่าจะออกไปจากห้อง แต่พระสังฆราชรีบวิ่งไปที่ประตูก่อนแล้วปิดกุญแจอย่างแน่นหนา เมื่อปิดแล้วก็ยัดกุญแจใส่กระเป๋าหันมาพูดอีกว่า "คุณพ่อบอสโกที่รัก เราจะไม่ออกไปจากห้องนี้จนกว่าฉันจะได้รู้ถึงสภาพวิญญาณของฉันอย่างแน่ชัดเสียก่อน "
เมื่อเห็นพระสังฆราชเอาจริงเช่นนี้ คุณพ่อบอสโกก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ สำรวมจิตใจสักครู่ แล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าพระสังฆราชพูดด้วยความยินดีอย่างเหลือล้น และอย่างชัดเจนว่า "ฯพณฯ อยู่ในพระหรรษทานของพระเป็นเจ้าครับ...."
"แต่ฉันกลัวว่า ที่คุณพ่อพูดเช่นนี้เพราะคุณพ่อใจดีเกินไป หรือเพราะคุณพ่อกลัวฉันจะเสียใจกระมัง"
"เปล่าเลย ฯพณฯ ผมได้พูดความสัตย์จริงทุกประการ"
"แต่ เอ...คุณพ่อรู้ได้อย่างไรเล่า"
"อ๋อ ผมอ่านในใจน่ะซีครับ"
แล้วทั้งสองก็โผเข้าสวมกอดกันด้วยความยินดี เพราะทั้งสองเป็นมิตรของพระ มีพระหรรษทานอยู่ในใจ พระรักมาก