ปลายเดือนกรกฎาคม 1880 คุณพ่อบอสโกได้เรียกคณะสงฆ์ที่ปรึกษาของท่านมาประชุมแล้ว เล่าความฝันของท่านให้พวกเขาฟังว่า...

หลายเดือนมาแล้วพ่อฝันว่า พ่อกำลังอยู่ในที่ประชุมพร้อมกับพวกเธอ ขณะที่พ่อเริ่มพูดถึงคณะซาเลเซียน ทันใดนั้นเองท้องฟ้ามืดคลึ้มไปด้วยพายุฝน และต่อมายังมีเสียงฟ้าแลบ ฟ้าร้อง คำรามอย่างน่ากลัว จนทำให้บ้านสั่นสะเทือนไปหมด คุณพ่อบอเนตตี้ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างแล้วร้องขึ้นว่า “ฝนตกเป็นหนาม”

แทนที่จะตกเป็นหยดน้ำ มันกลับตกเป็นหนามจริง ๆ อีกสักครู่หนึ่ง ฟ้าร้องเป็นครัวที่สองครั้นแล้วบรรยากาศที่มืดคลึ้มก็ค่อยสว่างขึ้นเล็กน้อย คุณพ่อเบเนตตี้ซึ่งยังยืนอยู่ที่หน้าต่างก็ร้องขึ้นว่า “ประหลาดจริง ๆ ฝนตกเป็นดอกไม้”

ดอกไม้ตูมนี้พอถึงพื้นก็ทำให้หนามเขียวไปหมด ครั้นแล้วเสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม เมฆจึงค่อย ๆ เปิดออก ดวงอาทิตย์ก็ฉายแสงเจิดจ้างลงมา คุณพ่อเบเนตตี้จึงร้องขึ้นว่า “แปลกจริง ๆ คราวนี้ฝนตกลงมาเป็นดอกไม้”

ดอกไม้นานาชนิดลงมาปกคลุมสนามและศูนย์เยาวชนเสียงกัปนาทได้ดังขึ้นเป็นคำรบที่สอง คุณพ่อเบเนตตี้อุทานขึ้นว่า “พวกเรามาดูซิ ฝนตกเป็นดอกกุหลาบ”

            เราพากันไปดูและได้เห็นดอกกุหลาบตกลงมาจากฟากฟ้าเหลือคณานับ ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่วบริเวณ เป็นภาพที่น่าดู ดุจเป็นวิมานสวรรค์ทีเดียว

            ความฝันนี้ เป็นที่บรรเทาใจคุณพ่อบอสโกเป็นอย่างยิ่ง เพราะในปีเหล่านั้นมีผู้ขัดขวางกิจการของคุณพ่อซึ่งทำให้คุณพ่อเสียใจมาก

(จากประวัตินักบุญยวงบอสโก เล่ม 14 หน้า 537)