คืนหนึ่งท่านฝันว่า ตัวท่านยืนอยู่บนที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยเยาวชนมากมายนับไม่ถ้วน บางพวกก็ด่า บางพวกก็ทะเลาะกัน บางพวกก็เที่ยวลักเล็กขโมยน้อย เด็กเหล่านี้ล้วนเป็นเด็กที่พ่อแม่ทอดทิ้งกันทั้งนั้น คุณพ่อบอสโกตั้งท่าจะวิ่งหนีเสียก็พอดีมีสุภาพสตรีเดินเข้ามาหาพลางสั่งว่า “คุณพ่อจงไปทำงานอยู่ในระหว่างเด็กพวกนี้เถิด” คุณพ่อบอสโกจึงเดินไปหาเด็ก แต่ก็ทำอะไรไม่สะดวกนักเพราะไม่มีสถานที่พัก ที่ทำงานอันเหมาะสม สุภาพสตรีจึงพูดขึ้นว่า “นี่เป็นสถานที่ที่พ่อจะต้องทำงาน” พูดพลางชี้มือไปทางสนามหญ้า “เป็นแต่สนามหญ้าเปล่า ๆ เท่านั้น” คุณพ่อบอสโกพูดด้วยความประหลาดใจ

            “บุตรของเราและบรรดาสาวก ก็ไม่มีที่ดินที่จะว่างศีรษะแม้แต่เพียงคืนเดียว”

            คุณพ่อบอสโกจึงนั่งลงฟังแก้บาป แปลพระธรรมคำสอน แต่ไม่ค่อยได้ผลนัก คุณพ่อจึงมองไปยังสตรีผู้นั้นและขอความช่วยเหลือ

            สุภาพสตรีนั้นจึงพาคุณพ่อไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางทิศเหนือแล้วพูดว่า “คุณพ่อมองที่นั่นซิ”

            คุณพ่อมองไปทางนั้นก็เห็นมีวัดหลังคาเตี้ย ๆ สนามแคบ ๆ และมีเด็กจำนวนมากมาย ต่อมาสถานที่นั้นก็เล็กลงไม่พอแก่ความต้องการอีกแล้ว คุณพ่อจึงหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากสตรีผู้นั้นอีก สุภาพสตรีจึงชี้ให้คุณพ่อดูวัดที่ใหญ่กว่าวัดเดิม พร้อมทั้งบ้านใหญ่หลังหนึ่งติดอยู่กับวัดนั้น

            “ณ ที่นี้แหละเป็นที่ซึ่งมรณสักขี อาเวนโตเร และออตตาวีโอถูกประหารชีวิต ที่นี่เองเป็นที่รองรับโลหิตของมรณสักขี เราปรารถนาให้พระเป็นเจ้าได้รับพระเกียรติมงคลเป็นพิเศษ”

            พูดแล้วสตรีนั้นก็เอาเท้าไปวางลงตรงที่มรณสักขีได้เสียชีวิต

            ทันใดนั้นพ่อก็เห็นกลุ่มเยาวชนยิ่งทียิ่งทวีขึ้น แต่เมื่อพ่อมองสุภาพสตรีผู้นั้น ก็ได้เห็นอุปกรณ์และสถานที่สำหรับเด็กด้วย ที่สุดพ่อก็เห็นพระวิหารใหญ่งดงามตั้งอยู่ตรงสุภาพสตรีผู้นั้นได้วางพระบาทซึ่งเป็นสถานที่ที่นักบุญแห่งแคว้นเทเบอาได้เป็นมรณสักขี รอบ ๆ มีอาคารหลายหลังและมีอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ตรงกลาง

            ในความฝันนั้นมีภราดาซาเลเซียน พระสงฆ์ เณรซึ่งช่วยพ่อสอนเด็ก ๆ แต่ไม่นานพวกเขาก็ปลีกตัวหลีกหนีไป พ่อพยายามด้วยความลำบากที่จะชักชวนให้เขาอยู่กับพ่อ เปล่าประโยชน์ จนที่สุดพวกเขาก็ปล่อยให้พ่ออยู่คนเดียว พ่อจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากสุภาพสตรีซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ นั้นเอง สุภาพสตรีจึงแนะนำพ่ออีกครั้งหนึ่งว่า “คุณพ่ออยากทราบวิธีที่จะทำให้พวกเขาไม่ทอดทิ้งคุณพ่อหรือ คุณพ่อจงเอาโบว์นี้และผูกที่หน้าผากของพวกเขา”

            พ่อก็รับโบว์จากมือของท่านและเห็นมีคำเขียนไว้ว่า “ความนอบน้อม” ครั้งแล้วพ่อก็ลงมือปฏิบัติตามคำแนะนำของสุภาพสตรีนั้น เอาโบว์ผูกที่หน้าผากของสมาชิก บางคนที่ยินดีจะอยู่กับพ่อและก็ได้เห็นผลทันที และผลนี้ก็ทวียิ่ง ๆ ขึ้น ขณะเดียวกันพ่อก็ได้ทำหน้าที่ของพ่อต่อไปเพราะพวกเขาไม่คิดที่จะจากพ่อไปอีกแล้ว แต่ยินดีที่จะอยู่กับพ่อเพื่อช่วยงานของพ่อ และพ่อก็เริ่มตั้งคณะ

            นอกจากนั้นในฝันเดียวกัน คุณพ่อก็ยังได้เห็นเหตุการณ์อีกหลายอย่าง ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต คุณพ่อเองครั้งหนึ่งก็เคยพูดกับสมาชิกของคณะว่า

            “ตั้งแต่พ่อฝันดังกล่าวแล้ว พ่อไม่นึกวิตกถึงอุปสรรคที่จะมาขัดขวางกิจการของพ่ออีกเลย พ่อทราบถึงอุปสรรคเหล่านั้นมาก่อนแล้วทั้งยังรู้จักวิธีเอาชนะอุปสรรคอย่างดีด้วย”

(จากประวัตินักบุญยวงบอสโก เล่ม 2 หน้า 296 - 300)