เย็นวันหนึ่งขณะที่คุณพ่อบอสโกกำลังนั่งฟังแก้บาปอยู่ในพระวิหารแม่พระองค์อุปถัมภ์ ได้มีความคิดอย่างหนึ่งมารบกวนท่าน กล่าวคือคุณพ่อรู้สึกสลดใจในการขาดแคลนพระสงฆ์ คุณพ่อมองดูเด็ก ๆ ที่อยู่ต่อหน้าท่านพลางคิดว่า เด็กเหล่านี้กว่าจะได้เป็นพระสงฆ์ก็ยังจะต้องเรียนอีกหลายปีและน้อยคนนักจะสำเร็จ แต่พระศาสนจักรต้องการพระสงฆ์อย่างรีบด่วน ทันใดนั้นคุณพ่อรู้สึกว่าตนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องส่วนตัว มือถือรายชื่อเด็กนักเรียนทั้งหมด ท่านแปลกใจมากและบ่นพึมพำว่า

“เอ เป็นอย่างไรนี่ พ่ออยู่ในวัดหรือในห้องอะไรแน่ แต่นี่เป็นโต๊ะทำงานของพ่อจริง ๆ นี่ก็เป็นบัญชี”

ทันใดพ่อได้ยินเสียงหนึ่งกระซิบที่หูว่า

“คุณพ่ออยากจะทราบวิธีเพื่อที่จะได้พระสงฆ์มาก ๆ โดยเร็วหรือ คุณพ่อตรวจดูบัญชีนี้ซิจึงจะรู้ว่าควรทำย่างไร”

คุณพ่อก็ลงมืออ่านชื่อเด็กในบัญชี แต่ไม่ได้พบเครื่องหมายอะไรในบัญชี มีแต่ชื่อเด็ก ๆ ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในเวลานั้นและชื่อเด็กที่เคยเรียนในปีก่อน ๆ เท่านั้น คุณพ่อยังนึกสงสัยว่าตนกำลังฝันอยู่กระมัง แต่ท่านรู้สึกว่า ท่านกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะจริง ๆ และเสียงที่ได้ยินก็เป็นเสียงคนจริง ๆ ตอนนี้คุณพ่อลุกจากที่นั่งหันหลังไปหาตัวผู้พูดส่วนพวกเด็กที่กำลังรอแก้บาป เมื่อเห็นคุณพ่อพรวดพราดลุกขึ้นด้วยอาการเช่นนี้ก็นึกกันว่าคุณพ่อไม่สบาย จึงพากันมาห้อมล้อมเพื่อจะพยุงท่านไว้ แต่คุณพ่อห้ามด้วยอาการยิ้มแย้มว่า

“พ่อไม่เป็นอะไรดอก” ว่าแล้วท่านก็นั่งลงฟังแก้บาปต่อไป

เมื่อฟังแก้บาปเสร็จแล้ว คุณพ่อก็รีบไปที่ห้องของท่าน เพื่อค้นดูบัญชีรายชื่อเด็กนักเรียน คราวนี้ได้ความว่า ผู้ที่เข้าบ้านเณรยังเล็กอยู่ มีหวังจะได้เป็นพระสงฆ์เพียง 2 ใน 10 คนเท่านั้น ส่วนผู้ที่เข้าบ้านเณรเมื่อโตแล้ว มีหวังจะได้เป็นพระสงฆ์ 8 ใน 10 คน คุณพ่อบอสโกจึงตกลงใจที่จะสนับสนุนพวกเด็กหนุ่มด้วยการเปิดบ้านเณรสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ

โรงเรียนสองแห่งแรกที่คุณพ่อได้สร้างเพื่อจุกประสงค์นี้คือ โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ที่มาซี และที่เมืองซันเปียร์ดาเรนา ในระเบียบการของโรงเรียนนี้คุณพ่อบอสโกได้เขียนว่า

“จุดประสงค์ของกิจการนี้คือ รับเด็กหนุ่มซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ที่มีความปรารถนาที่จะเรียนเพื่อจะได้บวชเป็นพระสงฆ์ ทางโรงเรียนจะอุดหนุนช่วยพวกเขาให้บรรลุถึงความสำเร็จ เมื่อผู้ใดได้รับเสื้อสามเณรแล้ว เขายังเป็นอิสระในการเลือกบำเพ็ญตนในอนาคต กล่าวคือเขาจะเข้าบ้านเณรใหญ่ของพระสังฆราชก็ได้หรือจะเข้าบ้านเณรของคณะนักบวชก็ได้แล้วแต่ใจสมัคร”

ภายในไม่กี่ปีโรงเรียนทั้งสองนี้ก็ผลิตพระสงฆ์ได้หลายร้อยองค์

(จากประวัตินักบุญยวงบอสโก เล่ม 11 หน้า 32)