db_16_1ในระหว่างพวกนักตรวจและนักเบียดเบียนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูเอกของบรรดารพระสงฆ์องค์เจ้าและสถาบันของนักบวช ซึ่งกินความไปถึงคุณพ่อบอสโกด้วยนั้น มีอยู่นายหนึ่งซึ่งมีอำนาจในการปกครองมาก และมียศเป็นขุนนางด้วย คนนี้มีชื่อว่า กั๊ตตี แปลว่า แมว ฉะนั้นเราจะเรียกเขาว่านายแมวก็แล้วกัน

    

"เอาละ คือว่านายแมวคนนี้ได้รับหน้าที่ให้ไปตรวจค้นโรงเรียนของศูนย์เยาวชน ปรากฏว่าเมื่อตรวจแล้วไม่เจออะไรที่เป็นความผิด ทว่านายแมวคนนี้ได้ทำรายงานเท็จใส่ร้ายศูนย์ยุวชนของคุณพ่อบอสโกเสียยกใหญ่

       เนื่องด้วยกลัวว่าศูนย์ของตนจะถูกปิด คุณพ่อบอสโกจึงรีบไปหาท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อป้องกันการใส่ร้ายนั้นโดยตรง

       พณ ฯ รัฐมนตรีได้เรียกนายแมวให้ออกมา และให้พูดคำฟ้องเท็จนั้นต่อหน้าท่านนักบุญ นายแมวของเราหมดท่า ไม่กล้าพูด งงไปหมด และโมโหสุดขีด จนที่สุดทนไม่ไหว จึงหันจะออกไปจากที่นั้นด้วยความฉุนเฉียว

       แต่เนื่องจากความขายหน้าและความโกรธ จึงทำให้นายแมวของเราตาลาย คือ แทนที่จะออกทางประตู กลับไปเปิดตู้ใหญ่ใบหนึ่ง และเดินเข้าไปในนั้นอย่างเต็มภาคภูมิ

เมื่อ ฯพณฯ รัฐมนตรีเห็นเข้า จึงร้องขึ้นว่า....

       "ไง....ท่านอัศวิน ช้าๆ หน่อยซี่....อ้ายนั่นมันเป็นตู้ต่างหาก ประตูออกมันอยู่ทางข้างหลังนี่..."

       ว่าแล้ว ฯพณฯ ก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูทางออกให้นายแมวของเราซึ่งแสนจะขายหน้า ในขณะเดียวกัน ฯพณฯ รัฐมนตรีก็หันมายิ้มกับคุณพ่อบอสโกถึงการปล่อยอ้ายโต้งของนายแมวครั้งนี้

       ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครเชื่อถือนายแมวอีกเลย เพราะเขาเป็นคนไม่มีความสัตย์และขาดสมบัติผู้ดีหลายอย่าง จึงเป็นที่รังเกียจของสังคม และไม่นานหลังจากนั้นเขาได้กลับเป็นคนวิกลจริต ที่สุดได้ไปอยู่บ้านนอกใกล้กับเมืองเฟลิซซาโน ณ ที่นั้นหลังจากได้แสดงความบ้ามากมายแล้วเขาก็ได้ตายไปอย่างน่าทุเรศโดยปราศจากความบรรเทาทุกอย่าง

       นี่แหละบางครั้งพระเจ้าทรงรอการลงโทษผู้เบียดเบียนพระองค์ไว้นาน แต่ไม่ต้องกลัวพระองค์จะทรงลงโทษสมความยุติธรรมเสมอ และบางครั้งแม้แต่ยังอยู่ในโลกนี้ด้วยdb_16_2