db_19เป็นเวลานานแล้วที่คุณพ่อบอสโก ได้พยายามใช้ความเอาใจใส่บวกกับความอ่อนโยนอย่างมากที่สุด กับเด็กของศูนย์ยุวชนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ชอบอยู่ต่างหาก ไม่ยอมสุงสิงหรือพูดจากับผู้ใหญ่เลย ท่าทางมีพิรุธผิดสังเกตและหัวดื้อเหลือเกิน แต่แม้ท่านจะพยายามสักเท่าใดก็ตามเด็กคนนี้ก็ยังคงหัวรั้นอยู่ตามเคย ความพยายามของคุณพ่อบอสโกไร้ผลทั้งสิ้น

       จึงในที่สุด คุณพ่อบอสโกได้คิดหาวิธีใหม่ ท่านเอากระดาษมาแผ่นหนึ่ง แล้วเขียนลงไปว่า....หากฉันจะตายคืนนี้ล่ะ...ท่านได้เซ็นชื่อ และได้เอากระดาษแผ่นนี้ไปวางไว้ระหว่างหมอนกับผ้าคลุมเตียงของเด็กที่น่าสงสารคนนั้น

       ตกค่ำ ทุกคนไปนอน และเด็กของเราคนนี้ก็ไปด้วย เขาไม่สังหรณ์ใจอะไรเลย ผลัดเสื้อผ้าเตรียมตัวนอนตามเคย แต่พอเลิกผ้าคลุมเตียงออกเท่านั้น ตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นนั้นเอ๊ะ..... มันเป็นอะไรนะ

       เขาได้หยิบมันขึ้นมาแล้วพลิกอ่าน.....หากฉันจะตายคืนนี้ล่ะพ่อบอสโก "เอ คุณพ่อบอสโกท่านเป็นนักบุญ ท่านรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า......เออ.....ใครจะกล้ารับรองว่าข้อความนี้ไม่จริงล่ะ......และถ้าหากผมจะตายจริงๆ ล่ะ.....หวา.....แย่โว้ย...ผมยังไม่อยากตาย....ไม่เอา"

       แม้แต่เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังขึ้นเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้กระชับ และพยายามนอนหลับ นอนหลับกะผีอะไรเล่า.....จะหลับในสภาพเช่นนี้หรือ.....จะหลับโดยที่มีคำเหล่านั้นซึ่งเปรียบประดุจหนามที่คอยทิ่มแทงเขานั่นหรือ....หลับไม่ไหวดอก

       เขาพลิกตัวไปมา พยายามปิดตาแน่น....แต่ไร้ผล เขารู้สึกว่าคำเหล่านั้นก้องอยู่ในหูของเขาเสมอ ดูเหมือนว่าเขาเห็นความตาย....พระตุลาการ...และนรก อยู่ต่อหน้าเขาจริงๆ เขาผวาสะดุ้งลุกขึ้นนั่ง เหงื่อท่วมตัว อุทานออกมาว่า

       "โอย แย่มัน ผมไม่อยากไปนรก ผมอยากไปแก้บาป....."

       หลังจากที่ได้อธิษฐานขอแม่พระช่วยแล้ว เขาก็ลงจากเตียงแต่งตัวอย่างเรียบร้อยแล้วลงบันได ข้ามระเบียงไป ต่อจากนั้นก็มุ่งตรงไปยังห้องของคุณพ่อบอสโก เคาะประตูทันที

       ฝ่ายนักบุญยอห์นบอสโกซึ่งกำลังคอยอยู่ก่อนแล้ว ก็เปิดประตูนำเขาเข้ามา และพูดว่า

     " โอ ถ้าเธอจะรู้ว่าพ่อกำลังรอเธออยู่ด้วยใจกระหายสักเท่าไรละก็ "

       เด็กของเราได้ทำการแก้บาปอย่างดี   และด้วยความเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างจริงใจต่อจากนั้นจึงได้กลับไปนอนใหม่ด้วยความผาสุกอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลย.